ถุงกระดาษ VS ถุงพลาสติก

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ถุงกระดาษและถุงพลาสติก

ถุงกระดาษ

ถุงพลาสติก

ต้นทุน

สูงกว่า
เนื่องจากวัสดุที่นำมาใช้ทำถุงมีต้นทุนที่สูงกว่า และมีความหลากหลายของวัสดุที่สามารถเลือกมากกว่า อาทิเช่น

• ประเภทของกระดาษ
• เทคนิคการพิมพ์
• วัสดุที่เป็นส่วนประกอบ เช่น หูถุง

ต่ำกว่า

มีพลาสติกให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับเชื้อของพลาสติกที่นำมาใช้งาน เช่น PP, PVC, PE สามารถกำหนดความหนาในการหลอมและฉีดแผ่นได้  และยังสามารถเพิ่มส่วนผสมทางเคมีอื่นๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติได้

มีเทคนิคการพิมพ์ที่สวยงาม แต่เนื่องจากการพิมพ์บนวัสดุที่เป็นพลาสติก มักจะต้องใช้ตัวทำละลายควบคู่กับหมึกพิมพ์ เพื่อให้ตัวทำละลาย (Solvent) ทำหน้าที่ในการกัดผิวของพลาสติก และให้หมึกเกาะติดกับพลาสติก

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระหว่างการผลิตวัสดุ

ต่ำกว่า

กระดาษผลิตมาจากเยื้อไม้ใหม่ และ/หรือ กระดาษที่ถูกนำมารีไซเคิ้ล

ป่าไม้สำหรับนำมาผลิตเป็นเยื้อกระดาษ ส่วนใหญ่จะเป็นป่าที่ปลูกขึ้นเพื่อสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษโดยเฉพาะ และจะมีการปลูกทดแทนตลอดเวลา

วิธีการผลิตกระดาษมีการใช้เคมีอยู่ด้วย เช่นเคมีที่ใช้ในการฟอกขาว และผงแป้งที่ใช้ในการทำให้กระดาษจับตัวเป็นแผ่น

สูงกว่า

พลาสติก ผลิตมาจากผลลัทธ์ทางเคมีของปิโตรเคมี อาทิเช่นน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีจำนวนจำกัด ยากต่อการสร้างใหม่เพื่อทดแทน

เนื่องจากวิธีการผลิตพลาสติกที่ต้องอาศัยเคมีจำนวนมากเป็นส่วนประกอบ และต้องใช้ความร้อน ซึ่งมีผลต่อการปล่อยแก๊ส ที่มีผลต่อสภาวะเรือนกระจกของโลกเรา (Carbon Footprint) เป็นจำนวนที่มากกว่าในระหว่างขบวนการผลิต

ภาพลักษณ์ต่อตัวสินค้าและแบรนด์

สูงกว่า

เจ้าของสินค้าที่เป็นแบรนด์หรูหร่าระดับโลก ก็ยังคงเลือกใช้ถุงกระดาษถึงแม้ว่าต้นทุนที่สูงกว่ามากก็ตาม เมื่อเทียบกับต้นทุนของถุงพลาสติก แต่ก็เป็นการตอบโจทย์ในเรื่องของความสวยงามหรูหร่าได้เป็นอย่างดี

ต่ำกว่า

เจ้าของแบรนด์สินค้าที่เป็นสินค้าอุปโภค ส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้งานถุงพลาสติก เพื่อเป็นการลดต้นทุนสินค้าและค่าดำเนินการ และลดภาระให้กับผู้บริโภค

ประโยชน์ใช้งาน ด้านเหตุผล

สูงกว่า

ประโยชน์ใช้งาน ด้านอารมณ์