วิธีใช้ประโยชน์จากนามบัตร
นามบัตรมีประโยชน์อะไร ? นามบัตร กดตังค์ไม่ได้ ... !!
อ่อ ... แต่นามบัตรช่วยหาตังค์ได้ค่ะ
ยื่นนามบัตร 1 ใบคือการเปิดโอกาสให้ตัวเองมากกว่า 1 ครั้ง
ใครรับนามบัตรไป เขาพร้อมจะบอกต่อ เล่าต่อ ชักชวน แนะนำคนอื่นๆ ให้รู้จักเรา ติดต่อหาเราค่ะ
ยื่นนามบัตรใบที่ 100 เท่ากับโอกาสดีๆ ที่คาดไม่ถึง กำลังวิ่งมาหาคุณมากมายนับไม่ถ้วน
นามบัตร เป็นสิ่งพิมพ์ใบเล็กมาก แต่น่าสนใจ ทำให้ผู้คนรู้จัก จดจำและยังย้ำเตือนได้เสมอ
กำเนิดนามบัตร
วัฒนธรรมการติดต่อสื่อสารโดยใช้สิ่งพิมพ์ประเภทการ์ด (CARD) หรือ “บัตร” ที่ทำจากกระดาษ เริ่มขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พบว่ามีการใช้บัตร 2 แบบ แบบแรกเรียกว่าบัตรเยี่ยม Visiting Card จะเรียกว่าบัตรแบ่งชนชั้นก็ได้นะ บัตนี้ใช้ได้เฉพาะบรรดาผู้ดีอังกฤษ เหล่าไฮโซ เซเลบในอังกฤษ ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าขุนมูลนายมอบหมายให้คนรับใช้ถือบัตรเยี่ยมไปมอบให้กับเพื่อนฝูง ผู้หลักผู้ใหญ่เมื่อนายท่านไม่สามารถไปเยี่ยมเยียนได้ด้วยตนเอง
บัตรอีกชนิดหนึ่งคือบัตรโฆษณา Trading Card บัตรชนิดแรกที่พิมพ์ภาพแผนที่ไว้ในบัตร จากนั้น “นามบัตร” หรือ Business Card จึงตามมาโดยผสมผสานรูปแบบ Visiting Card กับ Trading Card เข้าด้วยกัน เริ่มใช้อย่างแพร่หลายในศตวรรษที่ 19
ลักษณะที่น่าสนใจของ Visiting Card คือบัตรที่ส่งถึงกันระหว่างคนรู้จักและจดจำกันได้ ส่วนลักษณะของ Trading Card คือสื่อประเภทโฆษณาประชาสัมพันธ์รุ่นเก๋ากึ้กนั่นเอง สังเกตได้ว่าบัตรสองแบบนี้ถูกใช้อย่างมีจุดประสงค์ เริ่มที่ ... กระตุ้นความสนใจ บอกให้รับรู้ เกิดการรู้จัก สร้างการจดจำ จากนั้นก็ตามตอกย้ำเตือนไปทุกที่ ... ทุกที่ หมายความว่า ที่ๆ บัตรจะถูกนำไปวาง เก็บซุกลืมไว้ตรงไหนนานเท่าไรก็ตาม แต่หากวันหนึ่งใครไปเจอมันเข้า บัตรจะทำหน้าที่เตือนให้นึกถึง จำเรื่องราว ไปจนถึงจำเจ้าของบัตรได้
นามบัตรทำให้คุณ“ไม่ธรรมดา”
ใช่ค่ะ ... มีนามบัตรเป็นของตัวเอง ไม่ธรรมดาดหรอก ถ้าคุณมีความสามารถ มีสิ่งที่อยากบอก มีของที่อยากให้ มีบริการดีๆ นำเสนอ มีอะไรๆ ที่อยากส่งต่อสู่คนอื่น เพื่อนร่วมโลกรู้จัก ติดต่อได้ คุยกันได้ ยอมรับกันในที่สุด นามบัตรจึงเป็นอาวุธสำคัญ ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์
ส่งเสริมการค้า ดันธุรกิให้เติบโต
ใครจะเชื่อ กระดาษใบเล็กๆ จะสามารถเปลี่ยนคนธรรมดาเป็นคนพิเศษ
นามบัตร ทำให้คนบางคนน่าสนใจ น่าพูดคุยเจรจาด้วย ไม่ว่าคุณจะชื่ออะไร นามสกุลเล็ก ๆ อวดเบ่งไมได้ แต่ถ้าพิมพ์ชื่อเต็ม / นามสกุลเต็มลงนามบัตรเมื่อไร ชื่อ/นามสกุลของคุณก็มีราคาเมื่อนั้น !
แต่ก็แปลก คนที่ไม่ธรรมดาหลายๆ คน ยังไม่มีนามบัตรเป็นของตัวเอง เมื่อถูกร้องขอมักตอบว่า “หมดครับ / หมดค่ะ” !!
นามบัตรหมด ไม่มีแจกเมื่อถูกร้องขอ ถือเสียโอกาส
กล่าวกันตรงๆ บัตรที่เราเรียกว่า “Business Card” กระดาษใบเล็กๆ เป็นใบเบิกทางที่พกพาสะดวก พร้อมจะทำหน้าที่ติดต่อสื่อสารอย่างทันที ณ วินาทีที่ยื่นส่ง หรือแลกเปลี่ยนกัน จากนั้นการเจรจาซื้อขายจะง่ายขึ้นเร็วขึ้น โดยมีเป้าหมายชัดเจนทุกฝ่าย เกิดผลประโยชน์ต่างตอบแทน”ฉันขายเธอซื้อ” ไม่มีอะไรซับซ้อน นามบัตรจึงเป็นเครื่องมือที่ใช้ต้นทุนต่ำ แต่นำผลประโยชน์กลับมาให้อย่างประมาณค่าไม่ได้
นามบัตรเป็นหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนธุรกิจ ตราบเท่าที่ธุรกิจนั้นยังไปต่อได้ค่ะ
นามบัตรสร้างความไว้วางใจ
การยื่นนามบัตร เป็นขั้นตอนการแนะนำตัวอย่างตรงไปตรงมา และแสดงข้อมูลตัวตนที่มีอยู่จริง ชื่อจริง นามสกุลจริง
ทำงานอยู่ที่ไหน ทำธุรกิจอะไร มีตำแหน่งอะไร แค่นามบัตรใบเดียว “รู้เขารู้เรา” ระดับหนึ่งอย่างพอดี ไม่ก้าวล้ำกัน เพราะนามบัตรเป็นเครื่องมือที่บอกได้ว่า เราคุยกันเฉพาะเรื่องเท่านั้น การสื่อสัมพันธ์เกิดขึ้นและดำเนินไปอย่างมีแบบแผน มีกฎเกณฑ์และสร้างขอบเขตไว้ให้แล้ว
ดังนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรต้องลังเล ถ้าจะนามบัตรของตัวเองและแจกมันออกไป
อายุขัยนามบัตร 1 ใบ
เมื่อนามบัตรถุกแจก สร้างความสัมพันธ์เริ่มต้นเกิดกิจกรรมและปฏิสัมพันธ์ เกิดการเจรจาซื้อขาย แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันและกัน หลังจากนั้นแล้ว สิ่งที่คาดไม่ถึงคือความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น การเจราจาซื้อขายสม่ำเสมอ ผลประโยชน์ที่มากขึ้นจนถึงมหาศาลและยั่งยืน ทั้งหมดนั้น เกิดจากความไว้วางใจซึ่งเริ่มต้นด้วยนามบัตรใบเดียว ซึ่งเจ้าของนามบัตรเอง ต้องมีความพร้อมและไว้ใจได้ ทั้งด้านความสามารถ คุณภาพ และความรับผิดชอบ
นามบัตรสร้างความน่าเชื่อถือ
ความเชื่อถือ ไม่สามารถสร้างได้ในชั่วข้ามคืน ต้องอาศัยความไว้วางใจและเชื่อใจกันก่อน นามบัตรที่ยื่นให้คนหนึ่งคน จะทำหน้าที่แรกคือ สร้างความน่าสนใจ กระตุ้นให้เกิดคำถาม การติดต่อและติดตาม นามบัตรได้ทำหน้าที่แล้ว เจ้าของนามบัตรต้องรับช่วงต่อ พูดง่ายๆ คือ นามบัตรใบนั้นไปอยู่ในมือใคร นับจากวันนั้น นามบัตรจะมีคุณค่าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของเจ้าของนามบัตรเต็มๆ เลยค่ะ เพราะผู้ที่รับนามบัตรไปแล้ว รู้จักถึงขั้นอาจจะจดจำชื่อ/นามสกุลของบุคคลในนามบัตรไว้แล้ว กำลังจะสัมผัสตัวตนเจ้าของนามบัตรผ่านบุคลิก วาจา ความสามารถ ผ่านสินค้า ผ่านเนื้องาน จะเกิดการติดตามเพื่อซื้อซ้ำหรือไม่ ... หรือประเภทธุรกิจการผลิต/บริการ บริการทุกระดับประทับใจพอไหม ทั่วถึงหรือเปล่า ? ผลงานที่สมบูรณ์แบบ คือสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง และนำไปสู่ความเชื่อถือ โปรดรอฟังคำสรรเสริญจากลูกค้าค่ะ ไม่ใช่สรรเสริญตัวเอง !! คำชมของลูกค้า บอกได้ถึงระดับความพึงพอใจที่ลูกค้าได้รับมากน้อยต่างกัน ซึ่งเป็นข้อมูลจริงที่เราไม่มีสิทธิ์หลบเลี่ยงหรือปฏิเสธ สรุปได้ว่า เมื่อเขากำลังรู้จักเรา และจะอยากรู้จักเราต่อไปอีกนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเชิงบวกของเราเองที่ต้องบวกตลอดไป ตราบใดที่เรายังต้องการ Connection และผลประโยชน์ เป้าหมายสำคัญคือสร้างความประทับใจสม่ำเสมอ เราคงไม่อยากให้ลูกค้าฉีกนามบัตรของเราโยนลงพื้นแล้วบดขยี้ด้วยเท้า ใช่ไหมคะ ? ... สุดท้ายแล้วความไว้เนื้อเชื่อใจ สำคัญและจำเป็นมาก อย่าปล่อยให้มิตรภาพและความประทับใจแรก ในวันยื่นส่งนามบัตรให้แก่กันต้องสูญหายไปนะคะ
นามบัตรช่วยสร้างภาพลักษณ์
ภาพลักษณ์ดี เพราะมีนามบัตร ... จริงไหม ? มาดูสถานการณ์ตัวอย่าง ...
นาย A แต่งตัวดี มีตำแหน่งเป็นผู้บริหาร ใส่เสื้อผ้า นาฬิกาแบรนด์หรูมาก บุคลิกดี กริยาวาจาสุภาพเรียบร้อย นอบน้อม มีเสน่ห์... ไปพบลูกค้า ไปพบผู้ใหญ่ ออกไปเจรจาธุรกิจครั้งแรกไม่มี นามบัตร แจก !! ... ผ่านไปปีแล้วปีเล่า เมื่อถูกร้องขอนามบัตร นาย A ยังคงตอบว่า “หมดครับ”
กรณีต่อมา สมมตินาย B แต่งตัวเท่ มีสไตล์ ไม่เน้นแบรนด์ พูดน้อย วางท่าบ้างในบางครั้ง ตำแหน่งหน้าที่การงานไม่มี เป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์อิสระ ไร้สังกัด ไปพบลูกค้า ไปพบผู้ใหญ่ ไปพบรุ่นน้องนักศึกษา ไปพบก๊วนเพื่อน ไม่ว่าพบใครต่อใคร นาย B ก็แจกนามบัตร นามบัตรดีไซน์สวย เท่ ไม่เหมือนใคร เป็นฝีมือการออกแบบของนาย B เอง ความสามารถอื่นๆ บอกไว้ในนามบัตรของนาย B หมดแล้ว
สำหรับนาย A อาจจะเคยรู้สึกแว๊บๆ อยากมีนามบัตรไว้แจก แต่แค่อยาก
ขณะที่นาย B มั่นใจว่า นามบัตรใบเดียว ใส่ความเป็นตัวเองลงไปให้ปรากฏชัดเจนและน่าจดจำ นาย B เชื่อว่ากระดาษใบเล็กๆ ดึงดูดและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเขาได้ ไม่ง้อเครื่องประดับเสริมบารมี แต่ง้อนามบัตรใบเดียวที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ครบถ้วนสมบูรณ์ สร้างรายได้ สร้างหลักสร้างฐาน สร้างความมั่นคงยั่งยืนให้เขามาทั้งชีวิต
ธุรกิจ & นามบัตร - เพราะเราคู่กัน
มีธุรกิจก็ต้องมีนามบัตร เป็นของคู่กัน เพราะบัตรนี้ชื่อ Business Card บัตรธุรกิจ ... ธุรกิจต้องใหญ่ขนาดไหน ถึงควรจะพิมพ์นามบัตรแจก ?
ขนาดของธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจทำนามบัตรแจกค่ะ ขณะเดียวกัน นามบัตรจะทำหน้าที่กระจายข่าว ป่าวประกาศ บอกต่อและกระตุ้นการซื้อขายจนเกิดสภาพคล่อง มีรายรับพร้อมภาพลักษณ์ที่ดีกว่า ว
ป้าแพงแพง –เปิดครัวที่บ้าน มีฝีมือเลี่องลือ เจ้าของต้นตำรับ "น้ำพริกนรกแตก" ส่งขายทั่วประเทศ ,
คุณนายอ้อยอิ่ง – เป็นตัวแทนขายครีมหน้าเด้งจากเกาหลี
ร้านพี่โอ่ง - หน้าปากซอยขายข้าวขาหมู พร้อมบริการจัดใส่ตามบ้าน/บริษัท
ร้านมิสเตอร์แฟรงค์กี้ มีบริการซ่อมกระเป๋า รองเท้า
บริษัทน้องหนอนนิ่ง บริการออกแบบเว็บไซต์ ทุกคนคือผู้บริหารกิจการของตัวเอง คือนักธุรกิจที่คู่ควรกับการมีนามบัตรเป็นอย่างยิ่ง นามบัตรไม่มีวันลดภาพลักษณ์หรือทำให้นักธุรกิจดูแย่ลง แต่ให้ผลตรงกันข้ามเสมอ
คงไม่ต้องบอกว่า 5 บุคคลนั้น กลายเป็นบุคคลที่น่าสนใจ ผู้คนใคร่อยากรู้จักอีกมากขึ้นเท่าไร เมื่อแจกนามบัตร แจกใครก็ได้ทั้งกลุ่มเป้าหมายและที่ไม่ใช่เป้าหมาย ซึ่งก็คือลูกค้าในอนาคต การแจกนามบัตรจึงเหมือนการหว่านแหค่ะ เราไม่มีโอกาสรู้เลยว่า ใครกำลังตามหาอะไร ... การแจกนามบัตรคือการขยายเส้นทาง เพื่อผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้บริโภคจะหากันเจอ วันแรกพบได้สบตากันปิ๊งๆ เมื่อไร เมื่อนั้นธุรกิจก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
.............................................................
อย่าลืมติดตามเรื่องราว บทความ สาระดีๆ จากเราที่ https://www.facebook.com/SetSquareSurprisePrint/
ฝากแชร์และกด Like ด้วยนะคะ